ขายรถซึ่งรับจำนำระหว่างติดไฟแนนซ์ ผู้รับจำนำต้องรับผิดหรือไม่เพียงใด
สำนักกฎหมายทนายชนะ ทนายหาดใหญ่ ทนายสงขลา บริการว่าความ ฟ้อง แก้ต่างคดีแพ่งคดีอาญา และคดียาเสพติดทั่วราชอาณาจักร โดยทนายชนะ ชนะพล โทร 080 549 3774
ขายรถซึ่งรับจำนำระหว่างติดไฟแนนซ์ ผู้รับจำนำต้องรับผิดหรือไม่เพียงใด
ซึ่งพฤติการณ์แห่งคดีนี้เกิดขึ้นท้องที่เขตอำนาจศาลจังหวัดพัทลุง โดยเริ่มแรกสืบเนื่องมาจาก นายวิ... ต้องการเช่าซื้อรถยนต์ จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง (ไฟแนนซ์) แต่เห็นว่าไฟแนนซ์คงไม่อนุมัติให้เข้าทำสัญญาเนื่องจากนายวิ... มีประวัติค้างชำระหนี้กับสถาบันการเงิน (ติดแบล็คลิสส์) นายวิ..จึงขอไหว้วานให้นายสุ..น้องชายซึ่งมีอาชีพรับราชการช่วยเป็นผู้ออกหน้าลงนามทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินแทนนายสม... โดยนายวิ... ตกลงเป็นผู้ออกเงินดาวน์ และเป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดทั้งหมด ทั้งเป็นผู้ครอบครองใช้สอยรถยนต์ตลอดระยะเวลาตามสัญญา นายสุ...เห็นว่านายวิ... เป็นพี่ชายจึงตกลงให้การช่วยเหลือ โดยเข้าเป็นผู้ลงนามทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ยี่ห้อ ...กับธนาคาร... ในราคา ๖๐๗,๖๖๓.๗๔ บาท โดยนายวิ... เป็นผู้วางเงินดาวน์ ๒๓,๐๐๐ บาท และนายวิ... ต้องผ่อนชำระตามสัญญากับไฟแนนซ์ เป็นงวดรายเดือน เดือนละ ๘,๔๔๐ บาท ทั้งสิ้นจำนวน ๖๐ งวดและนายวิ... ได้รับมอบรถยนต์คันดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว
ภายหลังที่นายวิ... ได้รับมอบรถยนต์คันดังกล่าวไปแล้ว นายวิ... ได้ผ่อนชำระค่างวดให้กับไฟแนนซ์ เพียงจำนวน ๒๐ เดือนเศษ เป็นเงินจำนวน เพียง ๑๖๙,๐๔๒.๘๓ บาทจากนั้นนายวิ... ก็ไม่ชำระค่างวดอีกเลย
ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ นายวิ... ต้องการใช้เงินอีก จึงได้ติดต่อนายสม..และดาบตำรวจ... เพื่อจะให้ช่วยนำรถยนต์ไปจำนำ ซึ่งต่อมารถยนต์คันดังกล่าวดาบตำรวจ...กับนายสม...ได้ช่วยกันนำไปจำนำไว้กับนางโส...ภริยาของดาบตำรวจ..นั่นเอง โดยนางโส... รับจำนำไว้ในราคา ๓๕,๐๐๐ บาท และนางโส... ได้กำหนดให้นายวิ... ไถ่ถอนคืนภายในกำหนด ๓ เดือน ต่อมา นายวิ...ไม่ได้นำเงินไปไถ่ถอนรถยนต์ดังกล่าวภายในกำหนด นางโส...จึงนำรถยนต์ดังกล่าวไปขายต่อกับบุคคลอื่น ซึ่งเกี่ยวกับการจำนำรถยนต์ดังกล่าว นายวิ...กับนายสม...ดาบตำรวจ...และนางโส ได้ปกปิดมิได้แจ้งให้นายสุ...ทราบ
จากนั้นปรากฎว่าเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ นายสุ...น้องชายนายวิ...ก็ถูกไฟแนนซ์ ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคในคดีหมายเลขดำที่ ผบ. ๙๔/๒๕๖๑ ซึ่งต่อมานายสุ...ก็ได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะคู่สัญญาโดยตรงกับไฟแนนซ์ โดยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับไฟแนนซ์ขอผ่อนชำระค่างวดพร้อมค่าเสียหายทั้งหมดเป็นเงินจำนวน ๔๔๔,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินที่ค้างชำระ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมเป็นคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.๔๙๗/๒๕๖๑
นายสุ...เห็นว่าการกระทำของบุคคลทั้งสี่มีความผิด ทำให้ตนได้รับความเสียหาย จึงได้เรียกร้องให้บุคคลทั้งสี่ชดใช้ค่าเสียหาย และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธร... และเมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๒ บุคคลทั้งสี่ได้ทำบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหาย โดยบุคคลทั้งสี่ตกลงจะร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายสุ...เป็นเงินจำนวน ๔๔๔,๐๐๐ บาท โดยจะร่วมกันขอผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน เดือนละไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ บาท และจะชำระให้เสร็จสิ้นภายใน ๒ ปีนับแต่วันทำบันทึกดังกล่าว และหากบุคคลทั้งสี่เพิกเฉยไม่ชำระเกิน ๓ งวดติดต่อกันก็ยินยอมให้นายสุ...ฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคลทั้งสี่ได้ทันที
แต่ต่อมาภายหลังจากทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนดชำระหนี้ตามสัญญา บุคคลทั้งสี่กลับผิดนัดไม่ชำระหนี้เลยแม้แต่งวดเดียว นายสุ....จึงนำคดีมาฟ้องศาลขอให้บุคคลทั้งสี่ร่วมกันรับผิดชดใช้เงินให้แก่นายสุ...จำนวนทั้งสิ้น ๔๔๔,๐๐๐ บาท และต้องรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของเงินต้นด้วย
เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล นายวิ... และนายสม... มิได้ให้การต่อสู้ จึงถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การ
ส่วนดาบตำรวจ...กับนางโส...ให้การต่อสู้ว่า นายสุ...ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจาก ดาบตำรวจ...กับนางโส...ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ และไม่ได้ร่วมกับนายวิ...ยักยอกรถยนต์ไปจำนำกับนางโส...เหตุที่นางโส...ขายรถยนต์ให้บุคคลภายนอกเนื่องจากนายวิ... ตกลงให้ขายนำเงินมาชำระหนี้ได้หากนายวิ...ไม่นำเงินมาไถ่ถอนภายในกำหนด ดาบตำรวจ...กับนางโส...เห็นว่าตนไม่ได้กระทำละเมิดจึงไม่มีมูลหนี้ตามบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยประเด็นสำคัญว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับการที่นางโส...ขายรถยนต์คนดังกล่าวไปแล้ว นายสุ... ก็นำความเข้าร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของดาบตำรวจ...จนกระทั่งมีการทำบันทึกข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่นายสุ...(บุคคลทั้งสี่ยอมรับผิดตามเนื้อความข้างต้น) จึงต้องผูกพันตามเนื้อความของบันทึกนั้น ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาให้ บุคคลทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน จำนวน ๔๔๔,๐๐๐ บาท (เต็มตามฟ้อง)
ดาบตำรวจ...และนางโส...อุทธรณ์ในประเด็นสำคัญว่า นายสุ...ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะตนไม่ใช่ตัวการแต่เมื่อนายวิ...เป็นผู้นำรถมาจำนำกับตนนายวิ...จึงเป็นตัวการ นายสุ...จึงต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายเอากับนายวิ...แต่ผู้เดียว
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ วินิจฉัยประเด็นว่า นายสุ...มีอำนาจฟ้องดาบตำรวจ...และนางโส...หรือไม่ โดยเห็นว่า บันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหาย ข้างต้นนั้นมีลักษณะเป็นการระงับข้อพิพาทอันมีอยู่ระหว่าง นายสุ...กับบุคคลทั้งสี่ให้เสร็จไป ด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๐,๘๕๒ ประเด็นที่ดาบตำรวจ...และนางโส...ต่อสู้ว่า นายสุ...ต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายจากนายวิ...ในฐานะเป็นตัวการนั้นจึงไม่อาจรับฟังได้อีกเพราะได้ระงับสิ้นไปตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว และเมื่อบุคคลทั้งสี่ผิดนัดไม่ชำระหนี้นายวิ...จึงมีสิทธิ์เรียกร้องบุคคลทั้งสี่ชำระหนี้ให้ตามบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวได้ นายวิ...จึงมีอำนาจฟ้อง อุทธรณ์ของ ดาบตำรวจ...กับนางโส...จึงฟังไม่ขึ้น
ประเด็นว่า ดาบตำรวจ...กับนางโส...ต้องร่วมกันรับผิดค่าเสียหายตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่ เห็นว่าดาบตำรวจ...กับนางโส...เป็นสามีภริยากัน โดยดาบตำรวจ...แนะนำให้ นายสมกับนายวิ...ไปกู้เงินกับนางโส...และนางโส...รับจำนำรถในราคา 35,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าที่นายสุ...เช่าซื้อมามาก โดย นางโส...ตอบทนายโจทก์ถามค้านรับว่าขณะรับจำนำตนทราบว่ารถยนต์อยู่ระหว่างผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ ย่อมแสดงให้เห็นว่านางโส...ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อนางโส...ขายรถให้กับบุคคลอื่นไป ย่อมเป็นการละเมิดต่อนายสุ...แล้ว ซึ่งประเด็นละเมิดต่อนายสุ...นั้นเป็นข้อพิพาทที่ได้ระงับสิ้นไปตามบันทึกข้อตกลงอันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ดาบตำรวจ...กับนางโส...จะต่อสู้ว่านางโส...นำรถออกขายไม่เป็นละเมิดหาได้ไม่
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ จึงพิพากษา ให้นายสุ...เป็นฝ่ายชนะคดี โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ซึ่งคดีนี้แนวทางต่อสู้ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับจำนำรถยนต์ไว้นั้น ได้ต่อสู้ในประเด็นสำคัญว่า บันทึกข้อตกลงไม่มีมูลหนี้จากการทำละเมิด เนื่องจากผู้ทำละเมิดคือ ผู้นำรถมาจำนำคือนายวิ... พี่ชายของนายสุ... และต่อสู้ด้วยเหุตผลว่า แท้จริงแล้วรถยนต์เป็นของนายวิ...นายสุ...เป็นเพียงผู้ออกหน้าลงนามทำสัญญาเช่าซื้อแทน นายวิ...เท่านั้น นายวิ...จึงมีสิทธิ์ครอบครองในรถยนต์โดยชอบย่อมมีอำนาจกระทำการใดๆแม้กระทั่งนำรถยนต์ไปจำนำจนกระทั่งหลุดจำนำผู้รับจำนำจะขายต่อไปยังบุคคลภายนอกก็ย่อมกระทำได้ไม่เป็นละเมิด แต่ ทนายโจทก์(ผู้เขียน) กลับเห็นว่า การที่นายสุ... ยินยอมผูกพันทำสัญญาเช่าซื้อแทน นายวิ...นั้น นายวิ..ย่อมรู้หรือควรจะรู้มาแต่แรกแล้วว่า การนำรถยนต์ไปจำนำโดยไม่ได้รับความยินยอมจาก นายสุ... หากไม่ได้ไถ่ถอนคืนภายในกำหนดก็อาจถูกผู้รับจำนำ นำรถออกขายบุคคลภายนอกต่อไปได้ และย่อมรู้แต่แรกแล้วว่า ไฟแนนซ์คงต้องฟ้องให้นายสุ...ชำระหนี้และส่งมอบรถยนต์คันเช่าซื้อคืนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ส่วน ผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมด้วยช่วยกันกับการรับจำนำอีกสามคนนั้น ย่อมรู้หรือควรจะรู้มาแต่แรกและขณะรับจำนำเช่นเดียวกันว่า รถคันดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างผ่อนค่างวดกับไฟแนนซ์ ซึ่งทุกคนต่างก็ทราบดีว่านายวิ...ไม่ได้มีชื่อเป็นผู้เช่าซื้อ แต่ยังช่วยกันจำนำและรับจำนำไว้ในราคาที่ต่ำมากโดยผิดกฎหมาย (รับจำนำเถื่อน) และยังขายรถออกไปจนไม่อาจติดตามรถยนต์กลับคืนได้ เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเป็นการจงใจกระทำให้นายสุ...ได้รับความเสียหายอยู่ในตัวแล้ว ซึ่งหากพวกทั้งสี่ไม่จงใจช่วยกันกระทำการจำนำรถดังกล่าวมาแต่แรก ลำพังเพียงปัญหาติดค้างค่างวดนับว่ายังเป็นเรื่องเล็กน้อย เนื่องจากนายสุ...อาจนำรถไปส่งมอบคืนให้กับไฟแนนซ์เพื่อหักกลบลบหนี้ ป้องกันความเสียหายจากการถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตามมูลเหตุแห่งคดีดังกล่าวได้ ความเสียหายจากการชำระหนี้ที่มีจำนวนที่แน่นอนตามคำพิพากษาตามยอมดังกล่าว จึงเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของนายวิ...กับพวก
มีคำถามว่า หากคดีนี้ไม่มีการทำบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายกันมาก่อน นายสุ...จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบุคคลทั้งสี่ได้หรือไม่
ผู้เขียนเห็นว่า หากกรณีนี้ไม่มีการทำบันทึกข้อตกลง นายสุ...กับนายวิ...อาจร่วมกันร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องกับการรับจำนำโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ. โรงรับจำนำ พ.ศ.2505 ซึ่งต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือจําคุกไมเกิน ๒ ปี หรือทั้งปรับทั้งจํา รวมทั้งร้องเรียนวินัยข้าฯราชการกับ ดาบตำรวจ... โดยนายสุ...อาจยื่นคำร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเข้าไปในคดีอาญาด้วยในคราวเดียวกันก็ได้
หรือนายสุ...อาจฟ้องเป็นคดีแพ่งแยกจากคดีอาญาเนื่องจากเมื่อนายวิ...กับพวกร่วมกันกระทำละเมิดนายสุ...ตามเหตุผลข้างต้นแล้ว แม้จะไม่มีการทำบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายกันมาก่อน นายสุ...ก็ยังคงมีอำนาจฟ้องเรียกร้องให้นายวิ...กับพวกชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นมูลหนี้ที่เกิดจากการทำละเมิดโดยตรงได้ เพียงแต่การพิสูจน์จะต้องให้ปรากฏข้อเท็จจริงในรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงให้น่าเชื่อถือ ซึ่งจะพิสูจน์ยากยิ่งกว่ามูลหนี้ที่ปรากฏตามเนื้อความในบันทึกข้อตกลงอยู่พอสมควร
ด้วยเหตุดังกล่าวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการจำนำรถยนต์ดังกล่าวย่อมเล็งเห็นมาแต่แรกแล้วว่าการกระทำของตนกับพวกมีความผิดอาญาแฝงรวมอยู่ด้วยจึงหาเหตุจูงใจให้นายสุ...ทำบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายเพื่อให้สิทธิการดำเนินคดีอาญาระงับไป ซึ่งเป็นการหลบเลี่ยงมิให้ต้องรับโทษทางคดีอาญาเนื่องจากเป็นเรื่องที่หนักอกหนักใจกว่าการชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งยิ่งนัก แต่อย่างไรก็ตามคดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 ก็ได้พิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งตามเนื้อความของบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเต็มจำนวน ผู้เขียนเห็นว่านายสุ...โจทก์คดีนี้ได้รับความเป็นธรรมอย่างที่สุดแล้วครับ
หลักกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา ๘๕๐ อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น คือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
มาตรา ๘๕๒ ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน
เรียบเรียงโดย ทนายชนะ ชนะพล สำนักฎหมายทนายชนะ ทนายหาดใหญ่ ทนายสงขลา ทนายคดียาเสพติด